|
|
|
|
|
1. ดินที่นำมาผสมสำหรับทำชั้น Polymer Chemroad Base ต้องปราศจากวัชพืช หรืออินทรีย์วัตถุอื่นใดจากแหล่งที่ได้รับความเห็นชอบจากผู้คุมงานแล้ว วัสดุที่มีขนาดโตกว่า 50 มม.ต้องกำจัดทิ้งไปหรือตีให้แตก
2. ตามปกติแล้วดินทุกประเภทสามารถนำเอามาใช้เป็นวัสดุผสมสำหรับงาน Polymer Chemroad Base ได้ แต่เพื่อให้คุณภาพออกมาดี ง่ายต่อการทำงาน และประหยัดค่าใช้จ่าย เนื่องจากว่าดินที่ส่วนผสมของดินเหนียวหรือตะกอนทรายในปริมาณสูง (ผ่านตะแกรงเบอร์ 200 มากกว่า 50%) จะต้องใช้ปริมาณปูนซีเมนต์ และ Polymer มากขึ้น เพื่อให้ได้คุณภาพเท่าเทียมกันกับดินที่มีส่วนละเอียดอยู่น้อย ดังนั้นเพื่อให้คุณภาพของชั้นพื้นทางออกมาดีที่สุด โดยสิ้นเปลืองค่าใช้จ่ายน้อยที่สุด ดินที่จะนำมาใช้ทำ Polymer Chemroad Base ควรมีคุณสมบัติดังนี้
- มีส่วนละเอียดที่ผ่านตะแกรงเบอร์ 200 ทดสอบตามมาตรฐาน AASHTO T27-70 ไม่เกิน 35% - Los Angeles Abrasion Loss ทดสอบมาตรฐาน ASTM C131 ไม่เกิน 60% - Liquid Limit เมื่อทดสอบตามมาตรฐาน AASHTO T89 ไม่เกิน 40% - Plastic Index เมื่อทดสอบตามมาตรฐาน AASHTO ไม่เกิน 15%
3. ปูนซีเมนต์ที่นำมาใช้ต้องเป็นปูนซีเมนต์ประเภทที่1 ทดสอบตามมาตรฐาน ASTM C150 ปูนซีเมนต์ที่นำมาส่งที่หน้างานต้องเป็นปูนใหม่มีความละเอียด ไม่จับตัวเป็นก้อน ที่เก็บปูนซีเมนต์ต้องแห้งไม่มีความชื้น เพื่อกันการจับตัวเป็นก้อนของปูนซีเมนต์
4. สารผสม Polymer มีส่วนประกอบหลักๆคือ โพลีเมอร์สังเคราะห์ และเซลลูโลส การนำมาใช้งานจะผสมกับน้ำเพื่อเจือจางก่อนที่จะสเปรย์เข้ากับส่วนผสม การเก็บ Polymer ที่หน้างานควรเก็บไว้ในที่ร่ม หรือถ้าเก็บไว้ที่กลางแจ้งควรมีผ้าใบคลุมอยู่ด้วย
5. การออกแบบส่วนผสมของ Polymer Chemroad Base จะใช้ค่า Unconfined Compressive Strength ทดสอบตามมาตรฐาน AASHTO T208 โดยก้อนตัวอย่างทดสอบจะถูกบดอัดใน Mold ตามมาตรฐาน AASHTO T180 ภายหลังการบ่มในถุงพลาสติกนาน 7 วัน แล้วนำไปแช่น้ำนาน 2 ชม. จะต้องมีค่าไม่น้อยกว่า 17.5 kg./cm2
|
|
|
|
|
|